รวม 6 ประเภทของแอปพลิเคชัน ที่กินแบตเตอรี่ iPhone มากที่สุด!
ต้องบอกเลยว่าเรื่องของอายุการใช้งานแบตเตอรี่นั้น เป็นหนึ่งในส่วนที่สำคัญที่สุดของสมาร์ทโฟนสมัยใหม่ ถึงแม้ว่าสมาร์ทโฟนจะมีแบตที่อึดมากแค่ไหน? แต่ถ้าเรานำมันไปใช้งานผิดประเภทแบตก็จะหมดเร็วได้เหมือนกัน โดยอายุการใช้งานของแบตเตอรี่นั้นก็ไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าคุณมีรุ่นใหม่ล่าสุดหรือไม่ เพราะอายุการใช้งานแบตเตอรี่ของคุณอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสมาร์ทโฟนและแอปที่คุณใช้นั่นเองค่ะ
วันนี้เราก็ได้รวบรวมประเภทของแอปพลิเคชันบน iPhone ที่เรียกได้ว่าเกิดมาเพื่อทำร้าย iPhone ของคุณ และมันยังกินแบตเตอรี่ iPhone ของคุณมากที่สุดอีกด้วย มาบอกทุกคนค่ะ
1. แอปพลิเคชัน Social Media ต่างๆ
ถึงแม้ว่าแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอย่าง Facebook, Snapchat และ Instagram จะได้รับความนิยมมากขนาดไหน? แต่มันก็อาจไม่ดีต่อการใช้งานแบตเตอรี่ของคุณ อย่างเช่น Facebook มันก็โดนทดสอบมาแล้วว่าสูบพลังงานแบตมือถือของคุณหนักมากๆ เพราะมันจะ refresh ตลอดเวลา ยิ่งมีการอัปเดตใหม่อยู่เรื่อยๆ ก็ยิ่ง refresh ถี่ ยิ่งดูดพลังงานแบตมือถือมากขึ้นด้วย
2. แอปพลิเคชันเบราว์เซอร์ที่โหลดมาเพิ่ม
ปกติแล้วบน iPhone จะมีเบราว์เซอร์อย่าง Safari ติดมากับเครื่องให้เราได้ใช้งานกันอยู่แล้ว แต่ก็ยังมีผู้ใช้งานอีกจำนวนไม่น้อยที่ต้องการโหลดเบราว์เซอร์ตัวอื่นๆ มาไว้ในเครื่อง ไม่ว่าจะเป็นเบราว์เซอร์ Chrome รวมไปถึงเบราว์เซอร์ Firefox ซึ่งหลายคนอาจไม่รู้ว่าเบราว์เซอร์เสริมพวกนี้ก็สูบแบตเหมือนกัน
3. แอปพลิเคชันเสริมเกี่ยวกับ Location
การเปิดการใช้งาน Location ที่เราโหลดมาเสริมเพื่อหาข้อมูลในการท่องเที่ยว รวมไปถึงอื่นๆ บอกเลยว่ามันใช้พลังงานแบตมหาศาลมาก เพราะตัวของแอปพลิเคชันจะทำงานตลอดเวลาไม่ว่าจะเป็น Google Maps หรือ Waze และ Uber เนื่องจากการตั้งแค่ Location Services ถูกตั้งค่าเป็น "Always" โดยค่าเริ่มต้น รวมไปถึงแอปโซเชียลมีเดียเองก็เช่นกันเพราะแต่ละตัวจะมีการตั้งค่าของ Location ด้วยกันทั้งสิ้น
4. แอปพลิเคชันกลุ่มติดต่อสื่อสาร
หลักๆ คงจะหนีไม่พ้น Skype และ Mail เพราะมันจะทำการ refresh อัปเดตเมลตลอดเวลา ยิ่งถ้าหากคุณไม่ได้ปิดแอปและไม่ได้ Logout ก็หมายความว่าคุณยังออนไลน์อยู่ ซึ่งจะดูดพลังงานแบตมากกว่าการโทรศัพท์แบบธรรมดาอีก
5. แอปพลิเคชันจำพวกฟังเพลง
ถึงแม้ว่าแอปจำพวกนี้จะไม่ได้ใช้แบตเบื้องทั้งหมด แต่แอปที่ดูดพลังงานแบตแน่ๆ เลยก็คือ ฟอร์มสตรีมเพลงชื่อดังอย่าง Spotify แม้ว่าในช่วงหลังๆ ทาง Spotify จะออกตัวเวอร์ชั่นใหม่ออกมาให้เราได้อัปเดตและมันจะพัฒนาขึ้นแล้วก็ตามแต่ก็ยังคงสูบแบตเหมือนเดิม
6. แอปพลิเคชันเสริมที่โหลดมาเพื่อเช็คปริมาณการใช้แบตเตอรี่ของแอปพลิเคชันตัวอื่นๆ ในเครื่อง
เพราะมันจะคอยมอนิเตอร์การใช้งานของแอปอื่นๆ และสามารถบอกได้ว่าแอปตัวไหนใช้พลังงานแบตเตอรี่ไปมาก ซึ่งหลายคนอาจไม่รู้ว่าเจ้าแอปเสริมพวกนี้แหละเป็นอีกพวกที่สูบแบตไปจำนวนมาก
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook